วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
[Review] - ปี ค.ศ. 2014 / พ.ศ.๒๕๕๗
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๘
ตอนแรกก็ว่าจะไม่แต่สุดท้ายก็เอาสักหน่อย
สารภาพว่าจำอะไรไม่ค่อยได้ ซึ่งบ่งบอกถึงความสะเพร่าของการใช้ชีวิตหน่อยๆ ที่ไม่รู้จักวางแผนและจำประสบการณ์อะไรมากเท่าไหร่นัก ดูเรื่อยเปื่อย ไม่ทุกข์ร้อนกับความเศร้าและไม่สนุกลืมกับความสุข มันดูเรื่อยเปื่อยเกินไปนะว่าไหม?
ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเป็นเดือนๆ แต่ท้ายที่สุดมันคิดไม่ออกจริงๆ เลยไล่เป็นข้อๆ แล้วกัน
What I've done
ปีนี้เป็นปีที่ได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ หลายอย่างมาก คิดว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันก็เช่นกัน
- จบปริญญาตรี
เรียนจบปริญญาตรีอย่างเป็นทางการ ศิลปศาสตร์ ภาษาศาสตร์ แอบได้เกียรตินิยมมาล่อเงินจากแม่ ไม่ได้ดีใจมากมายที่เรียนจบ ไม่ได้ดีใจอะไรที่ได้เกียรตินิยม แต่มาดีใจตอนที่เห็นแม่ดีใจกับรูปรับปริญญาและปริญญาบัตรของเรา
- รับปริญญา
ไม่ได้สนใจอะไรกับการรับปริญญาจนพ่อแม่ต้องกระตุ้น สุดท้ายตัดสินใจรับ เพราะเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้ (คิดแบบนั้นจริงๆ) หลังจากนี้เหมือนอะไรจะยากขึ้นในการทำให้เขาได้ภูมิใจ :( รับเสร็จไม่ได้รู้สึกพองฟูอะไรมากมาย ชอบตรงที่ได้เจอคนที่ไม่เคยเจอ ได้เจอคนที่ไม่ได้เจอมานาน เหมือนงานรับปริญญาเราเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ใครหลายคนกลับมาเจอกัน ... นี่สินะคือความหมายของวันพิเศษและวันสำคัญ
- ชีวิตการทำงาน
ทุกวันนี้ยังคงคิดว่า 4 เดือนในการทำงานให้กับเวบไซต์รีวิวอาหารแห่งหนึ่งไม่ใช่การทำงาน แต่เป็นการ 'เรียนรู้' มากกว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองโตขึ้นมากจากงานนี้ แต่ได้เรียนรู้ในโลกของความจริงมากขึ้น ได้ข้อคิดอะไรดีๆ จากประสบการณ์ของพี่ๆ ในที่ทำงาน ได้คำแนะนำและมิตรภาพที่อบอุ่นจากพี่ๆ ในที่ทำงาน ได้ลองทำในสิ่งที่คิดว่าชอบและพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วเราชอบจริงไหม ... ขอบคุณที่ให้โอกาสทำพลาดและพร้อมให้คำแนะนำ นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่อยากขอบคุณที่แห่งนี้เสมอ
- เขียนฟิค
ได้เขียนฟิคที่คิดว่าดีที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลย เป็นฟิคสั้นในโปรเจคท์หนึ่ง ได้เห็นความพยายามของผู้คนกลุ่มหนึ่งที่ทำเพื่อคนสองคน ดีใจที่โลกมีอะไรแบบนี้ให้ยิ้มได้กับความรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนแบบนี้
- รวมเล่มฟิค
เป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่ได้ลองทำ สนุกดี ทำเองทุกขั้นตอนเลย มั่วเองอีกแล้ว ดีใจที่ได้ทำและได้รับการตอบรับ ตอนแรกคิดว่ามีคนอยากได้เล่มเดียวเราก็จะทำ เพราะเราอยากลอง ขาดทุนไม่เป็นไร แต่สุดท้ายได้รับผลตอบรับเกินคาดมาก และทุกวันนี้ก็ยังเสียใจนิดๆ ที่มีคนมาถามซื้อฟิคแต่ไม่มีให้แล้ว ._.
- เรียนภาษาที่เกาหลี
ทำเรื่องมาเรียนภาษาด้วยตัวเอง ตอนแรกที่เหมือนว่าจะต้องเสียเงิน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจทำเองและรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันต้องคุ้มค่าที่ได้ทำเอง ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง งงๆ เบลอๆ ทำมั่วตามสไตล์บ้าง สุดท้ายก็รอดจนได้มานั่งเรียนและนั่งเขียนบล็อกนี้ในประเทศเกาหลีใต้
Who I met
- Girls' Generation
ต้นปีไปดูคอนเสิร์ตเกิร์ลเจน เป็นหนึ่งโมเม้นท์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานาน ร้องไห้ท่วมท้นแต่ไม่เท่าครั้งแรก โหวงๆ ไม่น้อยทุกครั้งที่คิดว่าตอนนี้ไม่ได้มีกัน 9 คน แล้ว
- ชัชชาติ สุทธิพันธ์
- ชูบัม
มิตรสหายชาวอินเดียท่านหนึ่ง ที่เข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต ได้ลองงานแปลที่ได้รายได้จากการช่วยงานทำวิจัยปริญญาเอกจากคนนี้ แถมยังได้เพื่อนใหม่อีกด้วย
Where I go
เป็นอีก 1 ปี ที่ได้ออกเดินทาง ใกล้บ้าง ไกลบ้าง ตามระยะทาง
- จ.ตาก
ไปค่ายที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ตาก เป็นค่ายที่รอมานานมาก อยากไปตั้งแต่ครั้งแรกแต่ตอนนั้นพลาด สนุกกับการเอาตัวเองไปอยู่ในที่ใหม่ๆ เพื่อเรียนรู้ตัวเองในที่ใหม่ๆ ได้ใช้เวลากับเพื่อน รุ่นน้อง อาจารย์ เปิดใจคุยกันในหลายเรื่อง แลกเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง เหมือนจะเป็นผู้ให้แต่กลายเป็นว่าค่ายนี้เรากลายเป็นผู้รับ ยังคิดถึงน้องๆ และบรรยากาศที่นู้นอยู่เลย
- จ.สระบุรี
ไปเที่ยวกับรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เป็นทริปสั้นๆ ที่มีความสุขมาก อิ่มหัวใจ อุ่นหัวใจ เป็นทริปที่ได้มาเพราะการตอบคำถามที่ยากมาก! จนคิดแล้วว่าไม่ได้แหงๆ แต่พอได้รับโทรศัพท์นี่ตัวสั่นกรี๊ดเหมือนน้ำตาจะไหล แต่ก็เกือบพลาดที่ตื่นสาย ตอนแรกนึกว่าจะอดไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ทันจนได้ ทริปนี้เที่ยวสนุก ได้คุยกับชัชชาติอปป้าเหมือนคนรู้จัก แต่พีคสุดตรงที่ได้เจอคนที่แอบชอบในทริปนี้ จนแอบหน่วงๆ ในวินาทีสุดท้ายที่ต้องลงจากรถไฟ ...และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เจอเขาคนนั้นอีกเลย
- เพชรบุรี
ทะเลและค่าย IYF ค่ายเวิลด์แคมป์ ไมไ่ด้สนุกเท่าที่คิด แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรมาก ได้เพื่อนอินเดียมาหนึ่งคน ภาษาอังกฤษไม่ได้ใช้อะไรมากมาย แต่เข้าถึงตัวบทของคัมภีร์ศาสนาคริสต์มากขึ้น รู้สึกอินเพราะคำสอนค่อนข้างเรียลและปรับใช้ในชีวิตได้ แต่พอเข้าเรื่องที่มันเหนือธรรมชาติ ความคิดก็เปลี่ยนเลย ไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนี้ คิดว่าทุกศาสนามีข้อคิดดีๆ ต่างกัน พยายามเอาของแต่ละอย่างมาปรับกับตัวเรามากกว่า จบค่ายนี้กลายเป็นคนไม่มีศาสนาไปเลย ไม่เข้าวัด ไม่เลื่อมใส ศรัทธาอะไร ตอนนี้ยังไม่รู้สึกโหวงเหวงอะไร แต่ในอนาคตคิดว่ายังไงคนเรามันก็ต้องการที่พึ่งทางใจ
- จันทบุรี
ทริปสั้นๆ หลังงานรับปริญญากับครอบครัว ไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าตื่นเต้น แต่ดีใจที่ได้มาเที่ยวกับแม่ ดีใจมากๆ
- ฉะเชิงเทรา
เป็นการเดินทางออกทำงานต่างจังหวัดครั้งแรก ชอบ ตื่นเต้นกับการได้ออกนอกสถานที่เสมอ เจอลูกค้าน่ารักที่พาเดินเที่ยว ได้ทานอาหารอร่อย และได้รู้ว่าจังหวัดนี้น่ากลับมาอีกครั้ง
- เชียงใหม่
จังหวัดที่อยากไปมาก สุดท้ายก็ได้ไปและไปกับแม่ สนุกในแบบที่ได้ไปกับแม่ ตั้งใจจะออกเงินเองแต่สุดท้ายก็ค่อนไปทางแม่มากกว่า ชอบนะ อยากไปเชียงใหม่อีก
- เกาหลีใต้
ตอนนี้ต้องมีชีวิตที่นี่ไปอีก 6 เดือน ... ตอนนี้รู้แค่นั้น
What I Bought
เรื่องเงินๆ ทองๆ ปีที่แล้วสูญเสียทรัพย์สินให้กับสินค้าชิ้นใดไปบ้าง
- Samsung S4
ได้ฤกษ์ถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่ ตัดสินใจซื้อหลังจากทำงานได้ไม่กี่วัน เพราะเครื่องเก่าต้องเปลี่ยนแบตและเครื่องรวน สุดท้ายตัดสินใจซื้อใหม่และหวังว่าจะได้ใช้ไปอีก 2 ปี (10 เดือน 0 % อีกครั้ง) ... เข้าเรื่องโทรศัพท์จึงทำให้ตระหนักได้ว่า 2 ปี ที่ผ่านมาสูญเงินให้สิ่งที่เรียกว่ามือถือไปแล้วเกือบ 4 หมื่น ได้ เอาเข้าจริงเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร
- Fuji X - A1
ตัดสินใจซื้อกล้องตัวเล็กหลังจากอยากได้มานานมาก และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ รักน้องฟูจิมาก ลืมกล้องใหญ่ไปแล้ว สิ่งนี้ก็ 0 % 10 เดือนอีกครั้ง #สบายใจเงินผ่อนสไตล์
- ตุ๊กตาอัลปาก้า
เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่ได้เมื่อปีที่ผ่านมา เทใจให้ความมุ้งมิ้งของตุ๊กตาอัลปาก้ามาก ตอนนี้มีสมาชิก 4 ตัวแล้ว ยังมีตัวเล็กตัวน้อยอีก ซึ่งคิดว่าต่อไปคงลุยซื้อตัวโตๆ อย่างเดียว แต่พอคิดอีกที แค่นี้บนเตียงก็ไม่มีที่นอนแล้วนะ อย่างไรก็ตามรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ใครเห็นอัลปาก้าแล้วคิดถึงเรา :)
What I realized
เป็นหัวข้อที่ไม่รู้จะจับใส่อะไรดี จึงมาเป็นสิ่งนี้
- เป็นหนึ่งปีที่ค้นพบความเป็น introvert ของตัวเอง ที่ผ่านมาคิดว่าตัวเอง extrovert มาตลอด จนกระทั่งมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และได้ข้อสรุปว่ามันเริ่มไต่ระดับขึ้นมาโดยที่เราไม่รู้ตัวมาตลอด
- เป็นปีที่อ่านหนังสือน้อยลงมาก ทำให้งานเขียนกร่อยลงด้วย
- เป็นปีที่ให้เวลากับการสร้างภาพไปเยอะมาก
- เป็นปีที่คิดถึง 'คนอื่น' มากกว่า 'คนของเรา' เยอะมาก
- เป็นปีที่มีปัญหากับความสัมพันธ์มากเท่าที่เคยมี มันค่อนข้างซับซ้อนและแอบเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย แต่ค่อนข้างได้อะไรเยอะมากจากการล้มเหลวในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เหมือนตัดใจกับอะไรๆ ง่ายขึ้น มองเห็นทุกความสัมพันธ์ว่าไม่ถาวร ถ้าเจออีกครั้งคงแข็งแกร่งขึ้น ครั้งนี้มันครั้งแรก หน่วงนานหน่อย คงเพราะแต่ก่อนมันดีมากเกินไป ตอนไม่เหลืออะไรเลยทำใจไม่ค่อยได้... และทุกวันนี้มันก็ยังคงคลุมเครือ และที่ยังคลุมเครือคงเป็นความผิดเราที่ไม่ชัดเจนและไม่กล้า
- เป็นปีที่ได้ค้นพบว่าตัวเองกลีวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง อาจจะเพราะช่วยเหลือตัวเองมาตลอด พอมีเรื่องที่คิดว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอ น่าจะขอความช่วยเหลือใครสักคนแต่สุดท้ายก็งมเองตลอด หลายคนที่อยากเข้าหาแต่สุดท้ายเราก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขารำคาญ กลัวเป็นภาระ พอมารู้ทีหลังว่าเขาเต็มใจจะช่วยก็แอบเสียดาย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเขาเต็มใจจะช่วยเรา แค่นี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว
- เป็นปีที่ 'คิดมาก'
ยังคงพอใจกับการได้ทำอะไรให้คนรอบข้างและคนอื่นๆ ยิ้ม และดีใจมากๆ เมื่อได้รับคำขอบคุณว่า "ขอบคุณ" ที่เราทำสิ่งนั้นให้
น่าจะขาด หายไปหลายสิ่งเหมือนกัน ไว้ปีนี้จะพยายามเขียนบันทึกให้มากขึ้นแล้วกัน
แต่ปีหน้ายังไม่มีแพลนอะไรทั้งนั้น ไม่มี resolution อะไรด้วย เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
P.S. ทิ้งท้ายสิ้นปีด้วยการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เป็นสิ่งดีๆ ทิ้งท้ายปีที่เหมือนจะเป็นความหวังให้ตัวเองเลยล่ะ :)
สุดท้ายจริงๆ ... สวัสดีปีใหม่ :)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น